จากการที่สมาคมการพิมพ์ไทย ได้ริเริ่มจัด “การประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติ” ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2549 นั้น ได้สร้างความตื่นตัวให้กับอุตสาหกรรมการพิมพ์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรทางการพิมพ์หรือผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ทางการพิมพ์ และทางภาครัฐต่างก็ให้ความสนใจเข้าร่วมสนับสนุนในกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี ทั้งนี้เพราะผลที่ได้จาก “การประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติ” ทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในด้านการยกระดับมาตรฐานคุณภาพสิ่งพิมพ์ อีกทั้งผลงานที่ได้รับรางวัลจากการประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติและถูกส่งไปแข่งขันสิ่งพิมพ์ระดับนานาชาติ หรือ Asian Print Awards 2019 ก็ประสบความสำเร็จได้เป็นที่หนึ่งตลอดหลายปีติดต่อกัน โดยเฉพาะปีที่ผ่านมาผลงานของประเทศไทย ได้รับเหรียญทอง 8 เหรียญ เหรียญเงิน 16 เหรียญ และเหรียญทองแดง 7 เหรียญ รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 31 เหรียญ ห่างจากที่ 2 กว่า 20 เหรียญ นับเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าคุณภาพ การพิมพ์ของโรงพิมพ์ในประเทศไทยมีความก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาประเทศ นำพาซึ่งยอดการส่งออกสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ให้กับประเทศไทยสูงขึ้นเป็นลำดับ
ดังนั้น เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จที่ผ่านมา สมาคมการพิมพ์ไทย จึงได้จัด “การประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติ ครั้งที่ 14” ขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2563 นี้ ภายใต้แนวคิดว่า “The Unity for Sustainability” เอกภาพเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ไทย ในปัจจุบันต้องยอมรับว่า ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสาร และ Social Media ทำให้ระบบการดำเนินธุรกิจทั้งภาคการผลิต และภาคการบริการ ต่างได้รับผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลอย่างมากมาย จากที่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่กลับกลายเป็นว่ากระแสความเปลี่ยนแปลงถาโถมเข้าใส่ธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ทำให้บางธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันต้องล้มหายตายจาก หรือต้องเลิกกิจการไป หรือเราอาจเรียกสิ่งนี้ว่า Digital Disruption
อุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ก็เช่นกัน ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างยิ่งกับกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ ทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเอง โดยเฉพาะการที่ภาครัฐได้วางนโยบายเพื่อพัฒนาและผลักดันประเทศไทยสู่ยุค Thailand 4.0 เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการพิมพ์ ทั้งผู้ผลิตเครื่องจักร ผู้พิมพ์ และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง จึงต้องปรับตัวในทุกๆ ด้าน ด้วยกระบวนทัศน์ใหม่ที่เฉียบคมและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง โดยมีการพัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อตอบสนองความต้องการและ Life Style ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มิได้มุ่งเน้นในเรื่องการพิมพ์ที่สวยงามและมีคุณภาพเท่านั้น แต่จำเป็นต้องปรับตัวมุ่งเน้นไปในเรื่องการออกแบบ (Design and Functional) การใส่ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) การสร้างมูลค่าเพิ่ม (High Value Added) ตลอดจนการใช้นวัตกรรม (Innovation) ทั้งด้าน Hardware และ Software เพื่อตอบโจทย์
ที่ท้าทายของลูกค้า การประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติครั้งที่ 14 นี้ จึงได้เพิ่มประเภทการประกวดขึ้นมาอีก 3 ประเภทรางวัล ด้วยกันคือ ประเภทสิ่งพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing), ประเภทการออกแบบ (Graphic/Functional Appeal) และประเภทความคิดสร้างสรรค์ (Creativeness)
สําหรับการประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติมีวัตถุประสงค์ดังนี้
- เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและพัฒนาความใฝ่รู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมการพิมพ์
- เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา มาตรฐานงานพิมพ์ นวัตกรรมการพิมพ์ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์และ กระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
- เพื่อให้เกิดการตระหนักและให้ความสำคัญในด้านคุณภาพชิ้นงาน เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการแข่งขันและเตรียมพร้อมพัฒนาฝีมือสู่การแข่งขันในประชาคมอาเซียนและการแข่งขันในระดับโลก
- เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจและยกย่องผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศนี้
สุดท้ายนี้สมาคมการพิมพ์ไทยและคณะกรรมการการจัดงานประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติครั้งที่ 14 จึงขอเชิญชวน ผู้ประกอบการวิสาหกิจการพิมพ์ทั่วประเทศให้ร่วมกันส่งผลงานเข้าประกวดกันมากๆ เพื่อที่เราชาวอุตสาหกรรมการพิมพ์จะได้ร่วมกันก้าวข้ามสู่อนาคตความเป็นผู้นำทางด้านสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์อย่างเต็มภาคภูมิ